OSP กางแผนปี 66 ดันกำไร – รายได้ โตสองหลัก จ่อ M&A 1 – 2 ดีล หนุนอัพไซด์เพิ่ม

เรื่องที่น่าสนใจ เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

โอสถสภา กางแผนปี 66 กำไร และรายได้โต เติบโตสองหลัก รุกขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศ แย้มเตรียมเข้าซื้อกิจการ 1-2 ดีล หนุนอัพไซด์เพิ่ม

นางพรธิดา บุญสา ประธานฝ่ายปฏิบัติการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2566 บริษัทคาดหวังเติบโต double digit ทั้งรายได้ และกำไร

มั่นใจว่า ทั้งส่วนแบ่งการตลาด และยอดขายกลับมาได้แน่นอน ทั้งจากตลาดในประเทศ และต่างประเทศ มั่นใจว่า กลับมาจะสามารถเติบโตพร้อมกับการเปิดประเทศ ซึ่งในไตรมาส 4 ปีนี้น่าจะเริ่มเห็นแล้ว

ทั้งนี้รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่ม Energy Drink สัดส่วน65% Functional Drink สัดส่วน 18% Personal Care สัดส่วน 8% และอื่นๆ

ที่สำคัญคาดว่าปีหน้าจะสามารถประกาศดีลเข้าซื้อกิจการ (M&A)อย่างน้อย 1-2 ดีล ยังไม่นับรวมเป้าหมายในกำไร และยอดขาย ปีหน้าที่วางไว้ สำหรับดีลครั้งนี้จะใช้ความแข็งแกร่งกับบริษัท และเสริมด้วยความแข็งแกร่งของพันธมิตร ซึ่งยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียงกัน โดยไซด์ของดีลนับว่าเป็นขนาดใหญ่ แต่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา

นางพรธิดา กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตประเทศในปีหน้า เน้นการขยายตลาดเครื่องดื่มในเซ็กเตอร์ใหม่ๆ ที่ยังไม่มี ทั้งกลุ่มสินค้า พรีเมียม 12-15 บาท เพิ่มมากขึ้น หลังจากในปีนี้ ได้เริ่มปรับขึ้นราคาสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม Energy Drink เอ็ม-150 เพิ่มขึ้น 2 บาท จาก 10 บาท เป็น 12 บาท

ทำให้ปัจจุบันบริษัท พบว่า สินค้าพรีเมียมราคา 12-15 บาท มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 47.5% จากก่อนหน้าอยู่ที่ 17.3% หรือสัดส่วนปรับเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับสินค้าราคา 10 บาท มีสัดส่วน 52.5% ลดลงจากก่อนหน้าอยู่ที่ 82.7%

สะท้อนว่า ลูกค้ายังชอบในสินค้าพรีเมียม คุณสมบัติดีขึ้น โดยยังมีราคาเหมาะสม ดังนั้นการปรับขึ้นราคาสินค้าเครื่องดื่ม และตามแผนยังมีการที่จะปรับขึ้นราคาสินค้าในกลุ่มอื่นๆ อย่างเหมาะสม จะช่วยลดผลกระทบต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาคอมมูนิตี้ปรับเพิ่มขึ้นยกแผงในปีนี้ และยังยืนระดับสูงในปีหน้าได้

พร้อมกันนี้ ยังมุ่งขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศ ในกลุ่ม CLMV เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเติบโต double digit ทั้งในพม่า ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย รวมถึงมองหาโอกาสขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ ในอนาคต

ทางด้าน งบลงทุนปีหน้าวางไว้ที่ 2-2.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเพื่อปรับปรุงต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และอีกส่วนจะใช้เพื่อขยายกำลังการผลิต