เวสต์ลี่ย์ รีลลี่ กองเชียร์ แมนฯฯ ยูไนเต็ด คนหนึ่ง บอกว่าทีมรักของตนไม่ยอมเปลี่ยนชื่อบนชุดแข่งให้กับลูกชาย หลังจากตนซื้อเสื้อพร้อมกับสกรีนชื่อ เมสัน กรีนวู้ด ให้กับลูกเมื่อตอนต้นซีซั่น โดยระบุ ในสถานการณ์แบบนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะเปลี่ยนชื่อบนเสื้อให้แฟนบอลแบบฟรีๆ ถึงจะถูก
เวสต์ลี่ย์ รีลลี่ แฟนบอลคนหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อ้างว่า “ปีศาจแดง” ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อบนชุดแข่งให้กับ ฟินน์ลี่ย์ ลูกชายของตน หลังจากที่เด็กคนดังกล่าวมีเสื้อของ เมสัน กรีนวู้ด แต่อยากจะเปลี่ยนภายหลังเกิดเรื่องฉาวเกี่ยวกับดาวเตะชาวอังกฤษ
กรีนวู้ด กำลังกลายเป็นข่าวดังวงในการลูกหนัง หลังจากที่แฟนสาวของเขาฟ้องว่าโดนแข้งวัย 20 ปีทำร้ายร่างกายอย่างหนัก รวมถึงโดนอีกฝ่ายบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ร่วมกัน ซึ่งมันก็ทำให้ กรีนวู้ด โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม กรีนวู้ด อย่างรวดเร็ว และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังอยู่ภายใต้การคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่จริงตอนแรกมีการคาดกันว่านี่จะเป็นซีซั่นที่ดีสำหรับ กรีนวู้ด จากการที่เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาลด้วยการทำประตูในลีกไป 3 ลูกจากการลงเล่น 3 นัดแรก ซึ่งฟอร์มอันยอดเยี่ยมแบบนั้นก็ทำให้หนูน้อย ฟินน์ลี่ย์ ชื่นชอบ กรีนวู้ด มากๆ จน เวสต์ลี่ย์ ยอมควักเงิน 135 ปอนด์ (ประมาณ 5,940 บาท) เพื่อซื้อชุดแข่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กับลูก รวมถึงให้มีการสกรีนชื่อของ กรีนวู้ด ลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีข่าวอันฉาวโฉ่ของ กรีนวู้ด แล้วนั้น เวสต์ลี่ย์ ก็ติดต่อไปยัง แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อที่จะขอเปลี่ยนชื่อบนเสื้อ หรือไม่ก็ให้ทางสโมสรช่วยทำบางอย่างเพื่อให้มันกลายเป็นเสื้อเปล่าๆ ก็ได้ แต่เขาอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเสื้อตัวดังกล่าวถูกซื้อไปเกิน 90 วันแล้ว ซึ่งมันเหมือนกับหมดช่วงเวลาการรับประกันนั่นเอง
เวสต์ลี่ย์ ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ ซัน สื่อของเมืองผู้ดีว่า “ผมไม่ได้ขอให้พวกเขาคืนเงินหรืออะไรพรรค์นั้นสักกหน่อย ผมไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาต้องทำถึงขั้นนั้นหรอก แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วน่ะผมก็คิดว่าพวกเขาน่าจะยอมให้แฟนบอลเปลี่ยนชื่อบนเสื้อโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายสักหน่อย”
“เราได้คุยกับ ฟินน์ลี่ย์ แล้ว และเขาไม่อยากให้ชื่อของเขา (กรีนวู้ด) อยู่บนเสื้อของเขาอีกต่อไป มันมีคนที่ไม่มีเงินมากพอจนไม่สามารถซื้อเสื้ออีกตัวได้ หรือซื้อชุดแข่งทั้งชุดได้ เราเพิ่งซื้อชุดแข่งตัวนี้มาตอนต้นฤดูกาลเท่านั้น ไม่ได้ซื้อมาก่อนหน้านั้นเลย ดังนั้นผมเลยไม่เข้าใจว่าทำไมกฎ 90 วันมันถึงมีความสำคัญมากมายอะไรขนาดนั้น”
“ผมร้องเรียนไปยังสโมสรเพิ่มเติมแล้ว แต่พวกเขายังไม่ตอบกลับมาเลย พวกเขาควรจะเปลี่ยนชื่อบนเสื้อให้กับใครก็ตามที่อยากจะเปลี่ยนมัน แฟนบอลทุกคน รวมถึงคนที่เป็นแฟนบอลมาตลอดชีวิตน่ะตามซื้อชุดแข่งของพวกเขามาหลายปี ดังนั้นมันจึงควรจะมีอนุญาตให้ทำการเปลี่ยนชื่อได้ในทันทีในสถานการณ์แบบนี้”
“ที่ผมติดต่อไปหาพวกเขาก่อนหน้านี้น่ะพวกเขาบอกเพียงว่าจะติดต่อกลับมาเร็วๆ นี้ พวกเขาบอกว่ากำลังดูเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ แต่มันเป็นธรรมดาที่คุณย่อมคิดว่าสโมสรควรจะต้องทำบางอย่างที่เหมาะสม”
อ้างอิง
https://www.siamsport.co.th